Loading...

งานมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ อววน. เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยพลังสหวิทยาการ (อว. แฟร์: SCI POWER FOR FUTURE THAILAND 2025)

13/08/2568

การประชุม “นวัตกรรมพลาสติกชีวภาพสำหรับใช้เป็นอุปกรณ์การแพทย์: ความยั่งยืนที่จับต้องได้” ในงานมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ อววน. เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยพลังสหวิทยาการ (อว. แฟร์: SCI POWER FOR FUTURE THAILAND 2025) ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร ภายใต้ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านพลาสติกชีวภาพสำหรับใช้งานทางการแพทย์ (Hub of Talents in Bioplastics for Use in Medical Applications) แหล่งทุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสมาชิกของ BioMED HUB ทั้งเครือข่ายความร่วมมือแบบสหวิทยาการในระดับชาติทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งหมด 10 แห่ง ประกอบด้วย 7 สถาบันในภาครัฐได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยศิลปากร รวมทั้ง 3 เครือข่ายความร่วมมือกับเอกชนในประเทศ ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท โนวาเมดิค จำกัด ประเทศไทย และ บริษัท นีโอพลาสท์โตเมอร์ นำโดย รศ.ดร. วินิตา บุณโยดม ได้แนะนำศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านพลาสติกชีวภาพทางการแพทย์ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร และอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของประเทศ ไทย โดยมุ่งเน้นการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญและสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร งานวิจัยและนวัตกรรมด้านพลาสติกชีวภาพทางการแพทย์ ส่งเสริมการนำผลงานวิจัยไปใช้เชิงพาณิชย์ ทำงานแบบบูรณาการระหว่างภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายเพื่อยกระดับศักยภาพและขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ อุตสาหกรรมการแพทย์สู่ระดับสากล ตลอดจนส่งเสริมโครงการวิจัยร่วมระดับโลก ในงานประชุมได้มีการเสวนา 2 หัวข้อหลักได้แก่

หัวข้อที่ 1 ระบบนิเวศการวิจัยและนวัตกรรม: สู่การขยายผลผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ในระดับ อุตสาหกรรม

การเสวนาโดย ดร.อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย จาก สวทช. ได้แชร์ประสบการณ์การพัฒนาวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็น Deep tech Startup ภายใต้ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) กล่าวถึงงานวิจัยด้าน “Microspike® แผ่นเข็มจิ๋ว ออกแบบได้ตามสั่ง” เป็นเทคโนโลยีการนำส่งสารสำคัญเข้าสู่ผิวหนังด้วยโครงสร้างเข็มขนาดเล็ก เพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม หรือจะนำมาใช้ทางการแพทย์ก็ได้ ซึ่งได้รับมาตรฐาน ISO13485 และผ่านมาตรฐานเครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หลังจากนั้นศาสตราจารย์ ดร.สุวบุญ จิรชาญชัย และนายแพทย์ รังสรรค์ ฤกษ์นิมิตร จากจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ได้แชร์แนวทางในการพัฒนาโครงการ “บนความท้าทายของไบโอรีไฟเนอรี่อุตสาหกรรมขั้นปลาย: การพัฒนาวัสดุขั้นสูง วัสดุกลไกพิเศษ และวัสดุนวัตกรรมจากพอลิเมอร์สีเขียวเพื่อการแข่งขันได้อย่างยั่งยืนของประเทศไทย” มุ่งเปลี่ยนผ่านจากการใช้ทรัพยากรปิโตรเลียมสู่การใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างชาญฉลาดด้วยองค์ความรู้ด้านเคมีพอลิเมอร์ในการพัฒนาโครงสร้างวัสดุใหม่

หัวข้อที่ 2 การจับมือระหว่างนักวิจัยและอุตสาหกรรม: ก้าวแรกสู่เชิงพาณิชย์ของผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์แบ่งออกเป็น 3 Case ได้แก่

Case I: HydroMac Wound Care โดยคุณพีรวัฒน์ ทองคำ บริษัท โนวาเมดิค จำกัด รศ.ดร.สุกัญญา รอส และผศ.ดร.แกร์เร็ธ รอส จากมหาวิทยาลัยนรศวร ได้ร่วมกันแชร์ประสบการณ์ในการพัฒนา HydroMac คือ เทคโนโลยีมาโครเมอร์ที่พัฒนาสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลบาดแผลรุ่นใหม่ โดยเริ่มจากการวิจัยในห้องปฏิบัติการและถูกต่อยอดสู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีนี้สู่เชิงพาณิชย์ โดยการผลิตระดับนำร่อง ทดสอบประสิทธิภาพทางคลินิกและยื่นขออนุมัติจาก อย.

Case II: Biodegradable Polymer in Dental Application โดย คุณโสภณ จีนพงค์ บริษัท นีโอพลาสท์โตเมอร์ และ รศ.ดร. ทพ.ณัฐวุฒิ เทือกสุบรรณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ร่วมกันแชร์ประสบการณ์การนำพอลิเมอร์ย่อยสลายได้ทางชีวภาพไปใช้ในงานทันตกรรม ซึ่งใช้พอลิเมอร์สังเคราะห์เกรดทางการแพทย์ ได้แก่ PCL, PLGA และ PLA ที่ผลิตจากห้องปฏิบัติการผลิตพลาสติกชีวภาพสำหรับใช้ทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางทันตกรรมในประเทคไทยได้เร่งพัฒนาและนำเข้าวัสดุเหล่านี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการรักษาและตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

Case III: Advanced Wound Care: From concept to commercialization โดย ดร.นรินทร์ กาบบัวทอง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ รศ.ดร. วินิตา บุณโยดม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์โครงการพัฒนาวัสดุปิดแผลขั้นสูงเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทย อย่างครบวงจร ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของบริษัท เช่น Innaqua วัสดุปิดแผลจากไบโอเซลลูโลสที่อุ้มน้ำสูงและเข้ากัน ได้ทางชีวภาพ เหมาะสำหรับการสมานแผลและย่อยสลายได้ในธรรมชาติ และเป็นวัสดุปิดแผลฟองน้ำแบบ ไม่ใช้กาว ให้สัมผัสนุ่ม แนบกับผิวแผล ดูดซับของเหลวดี ช่วยลดการบาดเจ็บและไม่ต้องเปลี่ยนวัสดุปิดแผลบ่อย ซึ่งวัสดุดังกล่าวพัฒนาตามมาตรฐาน ISO 13485 รับรองคุณภาพและความปลอดภัยในระดับสากล โครงการนี้สะท้อน ศักยภาพนวัตกรรมไทยในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและแข่งขันในตลาดโลกอย่างยั่งยืน

การดำเนินงานของศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านพลาสติกชีวภาพทางการแพทย์ให้บรรลุเป้าหมายในการการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร และอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของประเทศไทยได้มุ่งเน้นการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญและสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากร งานวิจัยและนวัตกรรมด้านพลาสติกชีวภาพทางการแพทย์ ส่งเสริมการนำผลงานวิจัยไปใช้เชิงพาณิชย์ ทำงานวิจัยแบบบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชน เน้นผลักดันงานวิจัยด้านผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่จำหน่ายได้จริง สร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคมทั้งในประเทศและระดับสากล ตลอดจนส่งเสริมโครงการวิจัยร่วมระดับโลก

รูปภาพกิจกรรม